#LifeAtPRIMO – Software Development

วันนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่จะพาทุกท่านมาร่วมพูดคุยกับ 2 สมาชิกจากทีม Software Development เกี่ยวกับประเด็นสำคัญอย่างลักษณะการทำงาน Career Path และจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของ Software Developer ที่ PRIMO ...ไม่รอช้า มาพบกับบทสัมภาษณ์กันได้เลย!

‍

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับสมาชิกทั้ง2 ท่านกันก่อน

อาร์ต: สวัสดีครับ ผมอาร์ต ปัจจุบันเป็น Manager lead team ของ Software Development ครับผม

พี: ผมชื่อพีนะครับ เป็น Software Developer

Q: หน้าที่ของ Software Developer ที่ PRIMO นี่ต้องทำอะไรบ้างหรอครับ?

พี : หลักๆ ที่นี่ก็ต้องสามารถวิเคราะห์ Requirement เบื้องต้นและสามารถนำมาพัฒนาตัวซอฟต์แวร์ได้ครับ

Q: คุณสมบัติของคนที่จะทำงานนี้ควรมีอะไรบ้างครับ?

พี :โดยรวมนอกเหนือจากสกิลทางด้านคอมพื้นฐานทั่วไปก็น่าจะเป็นเรื่องของ
· มีความรับผิดชอบ
· ยอมรับความผิดพลาดปล่อยวาง แล้วรีบหาทางแก้ไข
· เข้าใจสิ่งที่ตนเองทำ
· พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ
· เชื่อมั่นในตนเอง
· เป็นคนมีเหตุผล
· เห็นอกเห็นใจคนอื่น
คิดว่าน่าจะประมาณนี้นะครับ 

‍

Q: ถ้าทำงาน Software Development ที่นี่ Career Path จะเป็นยังไงหรือเราสามารถเติบโตได้ขนาดไหนหรอครับ?

อาร์ต: ถ้าเอาแบบจริงจังเลยคือที่นี่จะแบ่งเป็น 4 IC level ครับ

IC 2 ส่วนใหญ่เป็นเด็กจบใหม่ไม่เคยทำงานจริงมีความสามารถในการส่งมอบงานที่มีประสิทธิภาพได้ เพียงแต่ยังต้องปรับตัวเรื่องวิธีการทำงานหรือยังไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมของ PRIMO ซึ่งกลุ่มนี้จะมีเมนเทอร์คอยดูแลอยู่ครับ

IC 3 เริ่มปรับตัวเข้ากับวิธีการทำงานและสามารถรับผิดชอบงานของตัวเองได้ งานที่พูดถึงก็จะมีเรื่องการรับรู้ Requirement ร่วมกัน | ออกแบบ Solution ให้เหมาะสมกับ service ปัจจุบัน และ requirement ที่ต้องการได้ | พัฒนา Software ตามเป้าหมายที่วางไว้ | ให้ความคิดเห็นแก่ทีมได้ | มองภาพออกว่าปัจจุบันที่ทีมทำอยู่สามารถทำอะไรได้บ้างและอะไรที่ทำไม่ได้บ้าง | รู้ว่าทีมยังขาดอะไร | ลำดับความสำคัญที่จะต้องทำก่อนหลังได้ | Investigate ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ | POC หรือ Research ความเป็นไปได้ของ Requirement ครับ

IC 4 จะแบ่งเป็น 2 พาร์ทพาร์ท Solution คือ เมื่อได้เข้าร่วมโปรเจคต้องประเมินได้ทันทีว่าจะต้องประกอบไปด้วยการทำงานยังไงบ้างรู้ระยะเวลาการเบรคดาวน์ต่างๆ โอกาสที่จะเกิดปัญหามีอะไรบ้าง เป็นบุคคลที่สามารถกระจายงานให้กับผู้อื่นได้ไม่ใช่แค่งานของตัวเองเท่านั้น พาร์ทนี้จะต้องคุยกับลูกค้าค่อนข้างเยอะส่วนอีกพาร์ทคือ Technical Improvement จะเป็นคนที่คอยขัดเกลา Product ที่พัฒนาขึ้นมาอีกทีจากการประเมินและทดสอบให้คนที่เอาไปใช้งานสามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

IC 5 ต้องดู Personal Development ของลูกทีมมากยิ่งขึ้น สามารถ Initiate และ Guide Team ในการพัฒนารูปแบบการทำงานของ Discipline เดียวกันได้ กระจาย Direction ที่ได้จากบริษัทไปให้ลูกทีมทำได้

Q: ทำงานที่นี่ยากไหม?
อาร์ต: ขอใช้คำว่าท้าทายมากกว่าครับ พวกงานที่ผมบอกไปข้างต้นมันเป็นสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้และพัฒนาพื้นฐานตัวเองได้ตลอดอยู่แล้ว สภาพแวดล้อมที่นี่ก็ส่งเสริมเราพอมีทีมที่ดีเลยช่วยให้เราสามารถส่งมอบงานออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยครับ

Q: ได้ข่าวว่าพี่อาร์ต สามารถเติบโตขึ้นจาก IC2 สู่ IC5 ได้ในระยะเวลาไม่ถึงปีแถมยังไม่ได้เรียนจบสายนี้โดยตรง ทำได้ยังไงกันครับ?

อาร์ต: อันนี้ผมว่ามันก็แล้วแต่คนด้วยนะถ้าจะให้อธิบายก็คงเป็นเพราะผมมีความชอบและสนใจในสายนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนทักษะที่เหลือมันก็ค่อยๆ เก็บเกี่ยวแล้วก็ตกตะกอนตอนที่ได้มาทำงานที่ PRIMO ครับ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความตั้งใจที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา มีใจเปิดกว้าง ผมคิดว่าต่อให้จบไม่ตรงสาย แต่ถ้ามีพื้นฐานและความสนใจในอาชีพนี้จริงๆ ก็สามารถมาเติบโตได้นะครับ เชื่อมั่นในตนเอง หาสาเหตุของปัญหาและแก้ไขมัน รับผิดชอบ Commitment ทุกงานที่มอบให้รู้ทันการณ์ มีไหวพริบในการแก้ไขปัญหา เข้าใจภาพใหญ่ก่อนลงมือทำจริงๆ หลักๆ พวกนี้เลยทำให้ผมได้รับความไว้วางใจให้นำทีมครับ

‍
Q: คำถามสุดท้ายนะครับ คิดว่าความแตกต่างหรือจุดเด่นของ PRIMO คืออะไรครับ?

พี: สำหรับผมนะ คือถ้า PRIMO มีโปรเจคอะไรก็จะให้เข้าไปฟังร่วมกันเพื่อให้เราเข้าใจภาพใหญ่จริงๆ มีความเปิดกว้างตั้งแต่จุดเริ่มต้น ไม่ตีกรอบทางความคิดเราด้วย และถ้าเป็น Software Developer ของที่นี่จะเข้าใจตั้งแต่ระดับ Business ว่าต้องการอะไร มี Pain point ยังไงเพื่อให้ออกแบบ Solution ได้อย่างเหมาะสมครับ
‍

‍
<sup>สนใจร่วมงานกับ PRIMO สามารถส่งResume ได้ที่
jobs@primo.mobi

หรือติดต่อคุณโดม โทร 0614161778
Email: nontaworn@primo.mobi
หรือสนใจเข้าไปดูตำแหน่งงานว่างได้ที่ >> https://bit.ly/3aejyi8</sup>